📌 AirDrop คืออะไร?
AirDrop คือเทคโนโลยีการส่งไฟล์ไร้สายที่ Apple พัฒนาขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้สามารถ ส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ Apple ได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้สายเคเบิลหรือเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad, Mac หรือ iPod touch คุณสามารถแชร์รูปภาพ วิดีโอ เอกสาร รายชื่อ หรือแม้แต่ลิงก์เว็บไซต์ได้ในไม่กี่วินาที
💡 ทำไมถึงควรใช้ AirDrop?
จุดเด่นของ AirDrop
📶 ไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต | ใช้ Bluetooth และ Wi-Fi Direct ส่งข้อมูลโดยตรง
⚡ ความเร็วสูง | ส่งไฟล์ได้เร็วกว่า Bluetooth แบบเก่า
🔒 ปลอดภัย | ข้อมูลถูกเข้ารหัสระหว่างอุปกรณ์
💼 รองรับหลากหลายไฟล์ | รูปภาพ, วิดีโอ, เอกสาร, ลิงก์, รายชื่อ ฯลฯ
🔄 ใช้งานต่อเนื่อง | ใช้ได้ทั้งกับ iOS และ macOS
📶 ไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต | ใช้ Bluetooth และ Wi-Fi Direct ส่งข้อมูลโดยตรง
⚡ ความเร็วสูง | ส่งไฟล์ได้เร็วกว่า Bluetooth แบบเก่า
🔒 ปลอดภัย | ข้อมูลถูกเข้ารหัสระหว่างอุปกรณ์
💼 รองรับหลากหลายไฟล์ | รูปภาพ, วิดีโอ, เอกสาร, ลิงก์, รายชื่อ ฯลฯ
🔄 ใช้งานต่อเนื่อง | ใช้ได้ทั้งกับ iOS และ macOS
📲 วิธีใช้ AirDrop บนอุปกรณ์ต่างๆ
▸ บน iPhone และ iPad
- เปิด Wi-Fi และ Bluetooth
- ไปที่รูปภาพหรือไฟล์ที่ต้องการส่ง แล้วแตะ แชร์ (Share)
- แตะไอคอน AirDrop
- เลือกอุปกรณ์ปลายทาง → ฝั่งรับจะเห็นข้อความยืนยัน → กดยอมรับ ▸ บน Mac
- เปิด Finder → เลือก AirDrop จากแถบด้านซ้าย
- เปิด Wi-Fi และ Bluetooth
- ลากไฟล์ไปยังไอคอนผู้รับในหน้าต่าง AirDrop
- เครื่องปลายทางจะรับไฟล์และเก็บไว้ในโฟลเดอร์ Downloads
⚙️ การตั้งค่า AirDrop
ไปที่ Settings (การตั้งค่า) > General (ทั่วไป) > AirDrop
คุณสามารถเลือกได้ว่าใครสามารถส่งไฟล์หาอุปกรณ์คุณ:
คุณสามารถเลือกได้ว่าใครสามารถส่งไฟล์หาอุปกรณ์คุณ:
- ปิดรับทั้งหมด
- เฉพาะรายชื่อ
- ทุกคน (แนะนำให้เปิดแค่เวลาจำเป็นเพื่อความปลอดภัย)
🚧 ข้อควรระวัง
- เปิด "รับจากทุกคน" เฉพาะตอนใช้งานเพื่อป้องกันการส่งไฟล์แปลกปลอม
- อุปกรณ์ต้องอยู่ในระยะไม่เกิน ~9 เมตร
- ต้องเปิด Bluetooth และ Wi-Fi ทั้งสองฝั่ง
- ไม่สามารถใช้งานกับ Android หรือ Windows ได้
✅ สรุป
AirDrop คือเครื่องมือแชร์ไฟล์ที่ทั้งเร็ว ใช้งานง่าย และปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ Apple
เหมาะมากสำหรับคนที่ใช้อุปกรณ์ใน Ecosystem เดียวกัน เช่น iPhone + Mac หรือ iPad + iPhone