CMNS Mac Repair

Spatial Audio ใน Apple Music: เสียง 3 มิติคืออะไร

เผยแพร่เมื่อ 18 June 2025

รับชม 6 ครั้ง

Spatial Audio ใน Apple Music: เสียง 3 มิติคืออะไร
Spatial Audio ใน Apple Music คืออะไร? ยกระดับการฟังเพลงสู่มิติใหม่
ในโลกของการฟังเพลงยุคใหม่ ประสบการณ์ไม่ใช่แค่เรื่องของคุณภาพเสียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงมิติและความสมจริงของเสียงด้วย Apple ได้นำเสนอเทคโนโลยีที่เรียกว่า Spatial Audio (ระบบเสียงตามตำแหน่ง) มาสู่วงการเพลงผ่าน Apple Music ซึ่งเป็นการพลิกโฉมการฟังเพลงให้มีมิติและดื่มด่ำมากยิ่งขึ้น ราวกับคุณกำลังนั่งอยู่ในสตูดิโออัดเสียงหรือคอนเสิร์ตฮอลล์จริง ๆ

Spatial Audio ใน Apple Music คือเทคโนโลยีเสียงที่นำเสนอประสบการณ์การฟังแบบ 3 มิติ (3D Audio) โดยใช้เทคโนโลยี Dolby Atmos เป็นหลัก ทำให้เสียงเพลงไม่ได้มาจากแค่ซ้าย-ขวา แต่สามารถมาจากด้านบน ด้านล่าง ด้านหน้า และด้านหลังของคุณได้ สร้างสนามเสียงที่โอบล้อมรอบตัวผู้ฟัง ทำให้แต่ละเครื่องดนตรี เสียงร้อง หรือเอฟเฟกต์เสียง มีตำแหน่งและทิศทางที่ชัดเจนในพื้นที่

Spatial Audio ทำงานอย่างไร?
หัวใจสำคัญของ Spatial Audio คือการประมวลผลเสียงเพื่อให้เกิดมิติและทิศทาง:
  1. การมิกซ์เสียงแบบ Dolby Atmos: ศิลปินและโปรดิวเซอร์จะทำการมิกซ์เพลงใหม่ในรูปแบบ Dolby Atmos ซึ่งเป็นการจัดวางองค์ประกอบเสียงต่างๆ (เช่น กลอง, เบส, กีตาร์, เสียงร้อง, ซินธิไซเซอร์) ให้มีตำแหน่งเฉพาะเจาะจงในพื้นที่ 3 มิติ แทนที่จะเป็นการมิกซ์แบบสเตอริโอ 2 มิติแบบเดิมๆ
  2. การประมวลผลบนอุปกรณ์ Apple: เมื่อคุณเล่นเพลงที่รองรับ Spatial Audio บนอุปกรณ์ Apple ที่ใช้งานร่วมกันได้ ตัวอุปกรณ์จะใช้ชิปประมวลผลและอัลกอริทึมขั้นสูงเพื่อถอดรหัสข้อมูล Dolby Atmos และสร้างประสบการณ์เสียง 3 มิติผ่านหูฟังที่เข้ากันได้
  3. การติดตามศีรษะแบบไดนามิก (Dynamic Head Tracking) - (เฉพาะ AirPods บางรุ่น): สำหรับ AirPods Pro, AirPods Max และ AirPods (รุ่นที่ 3) Spatial Audio ไม่ได้แค่ทำให้เสียงมีมิติ แต่ยังฉลาดพอที่จะ ติดตามการเคลื่อนไหวของศีรษะ ของคุณด้วย หากคุณหันศีรษะ เสียงจากเพลงก็จะยังคงมาจาก "อุปกรณ์" ของคุณ (เช่น iPhone) เสมือนว่าเสียงนั้นถูกตรึงไว้กับตำแหน่งของจออุปกรณ์ ทำให้ประสบการณ์ยิ่งสมจริงและดื่มด่ำราวกับว่าคุณกำลังรับชมภาพยนตร์ที่เสียงถูกตรึงไว้กับหน้าจอ

อุปกรณ์ที่รองรับ Spatial Audio ใน Apple Music
การจะสัมผัสประสบการณ์ Spatial Audio ได้อย่างเต็มรูปแบบ คุณต้องมีสิ่งเหล่านี้:
  1. การสมัครสมาชิก Apple Music: Spatial Audio เป็นส่วนหนึ่งของบริการ Apple Music โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  2. อุปกรณ์ Apple ที่รองรับ:
    • iPhone, iPad: ที่ใช้ชิป A12 Bionic หรือใหม่กว่า และใช้งาน iOS/iPadOS เวอร์ชันล่าสุด
    • Mac: ที่มีชิป Apple Silicon (M1, M2, M3 เป็นต้น) และใช้งาน macOS Monterey หรือใหม่กว่า
    • Apple TV 4K: เมื่อเชื่อมต่อกับลำโพงหรือหูฟังที่รองรับ
  3. หูฟังที่รองรับ (สำคัญที่สุดสำหรับประสบการณ์ 3 มิติเต็มรูปแบบ):
    • AirPods Pro (ทุกรุ่น), AirPods Max, AirPods (รุ่นที่ 3), AirPods (รุ่นที่ 2): จะได้รับประสบการณ์ Spatial Audio พร้อม Dynamic Head Tracking (เฉพาะรุ่น Pro, Max, 3rd gen)
    • Beats Fit Pro, Beats Studio Buds, Beats Studio Buds +: รองรับ Spatial Audio
    • หูฟังที่รองรับ Dolby Atmos: หูฟังส่วนใหญ่ที่รองรับ Dolby Atmos ก็สามารถใช้งานได้ แต่ประสิทธิภาพอาจแตกต่างกันไป
    • ลำโพงในตัวอุปกรณ์: iPhone, iPad, Mac บางรุ่นที่มีลำโพงในตัวรองรับ Spatial Audio แต่ประสบการณ์จะไม่ดื่มด่ำเท่าใช้หูฟัง

จะหาเพลง Spatial Audio ได้อย่างไร? และวิธีเปิด/ปิด
การค้นหาเพลง:
การเปิด/ปิด:

สรุป: Spatial Audio ประสบการณ์เสียงที่ต้องลอง
Spatial Audio ใน Apple Music ไม่ใช่แค่ฟีเจอร์ใหม่ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวิธีการที่เราบริโภคดนตรี มันนำเสนอประสบการณ์การฟังที่ดื่มด่ำและสมจริงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในใจกลางของเสียงดนตรีนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการได้ยินเสียงกลองที่อยู่ด้านหลัง เสียงร้องที่อยู่ตรงหน้า หรือเสียงเครื่องดนตรีที่ลอยอยู่รอบตัว

หากคุณเป็นผู้ใช้ Apple Music และมีอุปกรณ์ที่รองรับ การลองสัมผัสประสบการณ์ Spatial Audio ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด เพราะมันจะเปิดโลกการฟังเพลงของคุณไปสู่อีกระดับอย่างแน่นอน