Apple กำลังพัฒนากลยุทธ์ด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ใหม่ โดยมุ่งเน้นการประมวลผลบนอุปกรณ์ (On-Device) เป็นหลัก ควบคู่ไปกับการใช้โครงสร้างคลาวด์ส่วนตัว (Private Cloud) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้ช่วยอัจฉริยะ Siri และฟีเจอร์อื่นๆ ในระบบปฏิบัติการรุ่นถัดไป
องค์ประกอบหลักของเทคโนโลยี AI
- AI บนอุปกรณ์ (On-Device AI)
- หลักการทำงาน: การประมวลผลคำสั่งและข้อมูล AI ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นโดยตรงบนชิปของอุปกรณ์ (iPhone, iPad, Mac)
- ข้อดี: เพิ่มความเป็นส่วนตัว, ลดความหน่วง (latency), และสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสำหรับบางฟังก์ชัน
- Siri ที่มี Generative AI
- ความสามารถ: Siri จะได้รับการอัปเกรดด้วยเทคโนโลยี Generative AI ทำให้สามารถ:
- เข้าใจคำสั่งที่ซับซ้อนและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันต่างๆ ได้ (เช่น สั่งการข้ามแอป)
- เรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้เพื่อให้คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจง
- ความสามารถ: Siri จะได้รับการอัปเกรดด้วยเทคโนโลยี Generative AI ทำให้สามารถ:
- การประมวลผลบนคลาวด์ส่วนตัว (Private Cloud Compute)
- หลักการทำงาน: สำหรับคำสั่งที่ต้องการพลังการประมวลผลสูง ข้อมูลจะถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Apple เพื่อประมวลผลในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและไม่ระบุตัวตน
- ข้อดี: Apple ยืนยันว่าจะไม่มีการสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้และไม่มีการเก็บข้อมูลไว้ในระยะยาว
ฟีเจอร์ที่คาดว่าจะนำมาใช้
- การสรุปข้อความอัตโนมัติ: สำหรับอีเมล, การแจ้งเตือน และข้อความ
- การช่วยจัดการตารางนัดหมาย: แนะนำเวลาและวันที่จากบริบทการสนทนา
- การช่วยเขียน: สร้างร่างอีเมลหรือข้อความตามคำสั่ง
สรุป
กลยุทธ์ AI ใหม่ของ Apple ใช้โมเดลแบบผสมผสาน (Hybrid Model) ระหว่างการประมวลผลบนอุปกรณ์และบนคลาวด์ส่วนตัว เพื่อมอบประสบการณ์ที่ฉลาดขึ้นโดยยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เป็นสำคัญ คาดว่าจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในงาน WWDC 2025 และมาพร้อมกับ iOS 19